สหรัฐ ประกาศว่าถอนกำลังทหารจาก อัฟกานิสถาน อย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ท่ามกลางการเฉลิมฉลองของตาลีบันต่อวินาทีประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม สำนักข่าว อัลจาซีร่า รายงานว่า พลเรือเอก เคนเนธ แมคเคนซี ผู้บัญชาการของกองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐ ได้ออกมาประกาศว่า ประเทศสหรัฐฯได้ถอนกำลังอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งถือเป็นการยุติสงครามภายในประเทสอัฟกานิสถานที่ยาวนานกว่า 20 ปี
พล.อ.แมคเคนซี ระบุว่าขณะนี้กองกำลังของสหรัฐฯทุกนายได้ออกจากประเทศอัฟกานิสถานหมดแล้ว โดยนับตั้งแต่ที่กลุ่มตาลีบันเข้ายึดครองกรุงคาบูลตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมนั้น
ทางสหรัฐฯก็ได้อพยพประชาชนชาวสหรัฐฯกว่า 79,000 คนจากกรุงคาบูล ในจำนวนดังกล่าวเป็นพลเมืองชาวอเมริกัน 6,000 คน นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยด้วยว่ามีประชาชนกว่า 120,000 คนที่บินออกนอกประเทศนับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันยึดอำนาจ ทั้งนี้ไม่มีการยืนยันชัดเจนว่าในจำนวนนี้แบ่งเป็นชาวอัฟกานิสถานทั้งหมดกี่คน
ขณะที่กลุ่มผู้สนับสนุนกองทัพตาลีบันได้ยิงปืนขึ้นฟ้า และ บีบแตร เพื่อแสดงความดีใจที่กองทัพสหรัฐฯได้ถอนกำลังออกจากประเทศ ซึ่งตัวแทนจากกลุ่มตาลีบันได้ให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขารู้สึกภูมิใจกับวินาทีประวัติศาสตร์นี้
หญิงสิงคโปร์ที่เข้ารับวัคซีน ซิโนแวค ถึงกับช็อก หลัง ภูมิต้านทาน ขึ้นน้อยกว่าไฟเซอร์ถึง 10 เท่า ก่อนต้องบูสเข็มสามด้วยการฉีดไฟเซอร์
เมื่อวันที่ 1 กันยายน สำนักข่าว SCMP รายงานว่า หญิงชาวสิงคโปร์วัย 43 ปี ได้เข้าตรวจหาภูมิต้านทานโควิดหลังฉีดวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคสองโดส ก่อนจะพบว่าภูมิต้านทานของเธออยู่ที่ 140 ซึ่งถือว่าน้อยกว่าประชาชนที่เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ หรือ โมเดอร์นา ถึง 10 เท่า
โดยเธอเล่าว่าเธอและครอบครัวจ่ายเงินราวๆ 500 บาท เพื่อเข้ารับวัคซีนยี่ห้อซิโนแวคสองโดส แม้ว่าหมอจะแนะนำให้เธอเข้ารับวัคซีนยี่ห้ออื่นก็ตาม ซึ่งเธอระบุว่าเธอต้องการจะพิสูจน์ถึงคุณภาพวัคซีนยี่ห้อนี้ แม้เธอจะรับรู้ถึงรายงานเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการป้องกันวัคซีนที่ต่ำ แต่เธอเลือกจะไม่เชื่อรายงานดังกล่าว
หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวครอบครัวของหญิงชาวสิงคโปร์รายนี้ก็เข้ารับฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ ก่อนจะพบว่าภูมิต้านทานของเธอเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,900
ขณะที่แพทย์ในประเทศสิงคโปร์เล่าว่า ประชาชนที่เข้ารับซิโนแวค จะขอรับวัคซีนไฟเซอร์ หลังจากพบว่าภูมิต้านทานต่ำ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 0-40 และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ภูมิต้านทานเกิน 200
โดยประเทศสิงคโปร์มีบริการฉีดวัคซีนยี่ห้อโมเดอร์นาและไฟเซอร์ให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ในประเทศฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
อินเดีย ผวาเจอ ไข้ปริศนา คร่าชีวิตเด็กไปกว่า 50 ศพ
อินเดีย เจอ ไข้ปริศนา คร่าชีวิตเด็กไปแล้วกว่า 50 ศพ คาด ไข้เดงกี จากยุงเป็นเหตุ WHO หวั่นทำให้สถานการณ์โควิดเลวร้ายลง เมื่อวันที่ 1 กันยายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า พบไข้ปริศนาในรัฐอุตตรประเทศ ของอินเดีย และคร่าชีวิตผู้ป่วยแล้ว 50 ศพ และมีผู้ป่วยต้องถูกหามส่งโรงพยาบาลมากกว่า 100 ราย
โดยผู้ป่วยจะมีไข้ ปวดตามข้อต่อ ปวดศีรษะ วิงเวียน หิวน้ำ และพบว่าผู้ป่วยบางรายมีผื่นตามบริเวณแขนและขา นอกจากนี้จากการตรวจสอบยังไม่พบว่าผู้เสียชีวิตมีผลตรวจโควิดเป็นบวกอีกด้วย
ด้านเจ้าหน้าที่แพทย์ได้ออกมาวินิจฉัยว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะเกี่ยวข้องกับ ไข้เดงกี เชื้อไวรัสที่เกิดจากยุง โดยแพทย์พบเกร็ดเลือดที่น้อยลง ซึ่งเป็นคุณลักษณะของผู้ที่ได้รับเชื้อไข้เดงกี
ขณะที่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้ออกมาเปิดเผยว่าในทุกๆปีมีผู้ป่วยจากไข้เดงกีมากกว่า 100 ล้านราย ซึ่งทาง WHO ได้รับรายงานถึงอาการเลือดออกรุนแรงและอวัยวะเสื่อมเป็นจำนวนมาก โดยทาง WHO แสดงความเป็นห่วงว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และ โรคเดงกีอาจทำให้อินเดียเผชิญปัญหารุนแรงได้
นิวซีแลนด์ เร่งสอบ หลังจากที่พบผู้ เสียชีวิต หลัง ฉีดไฟเซอร์ จากอาการหัวใจอักเสบ คาดเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกในนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า ประเทศนิวซีแลนด์พบหญิงเสียชีวิตหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์ ซึ่งหญิงคนดังกล่าวอาจจะเป็นผู้เสียชีวิตศพแรกที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด-19
โดย คณะกรรมการเฝ้าระวังวัคซีนอิสระระบุว่าหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตจากกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งถือเป็นอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ยากหลังรับวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งทางคณะกรรมการอิสระยังระบุด้วยว่าอาจจะมีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงในครั้งนี้
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง
